วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ทำเนียบเจ้าอาวาสวัดท่าบันเทิงธรรม จ.นนทบุรี


รูปที่ ๑
พระวิจิตรธรรมภาณี{สิงห์ สุขปุญโญ}
ชาตะ ๑๑ ก.พ.๒๔๕๘
มรณะ ๒๑ ก.พ. ๒๕๔๕
ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสรูปแรก หลังจากที่วัดท่าบันเทิงธรรมเป็นวัดล้างไม่มี เจ้าอาวาส มาเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่ง มีเพียง หลวงพ่อพรหม นนฺทโย ซึ่งคอยดูแลอารายแห่งนี้เพียงรูปเดียว แต่เนื่องจากท่านชราภาพมากแล้ว ทางเจ้าคณะจังหวัดฝ่ายธรรมยุติ จึงได้นิมนต์ พระอาจารย์ สิงห์ ขึ้นมารับตำ่แหน่งเจ้าอาวาส วัดท่าบันเทิงธรรมในอดีต โดยมีใน อำเภอ บางใหญ่ในขณะนั้น มากราบสักการะรับ
ผลงานที่โด่ดเด่น***
๑. ท่าได้พัฒนาวัดท่าบันเทิงธรรม จากสภาพวัดล้าง จนประชนชนศัทธา กลับมาร่วมกับท่าบำนุบำรุงพระศาสนา ให้เจริญสืบทอดไป
๒.ท่าได้ก่อตั้ง โรงเรียนวัดท่าบันเทิงธรรมในปี 2498 เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาหาความรู้ โดยที่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาให้ความช่วยเหลือเลยสักบาท ค่าแรงคุณครูสอนหนังสือและอาคารเรียนของท่านสร้างขึ้นโดย จตุปัจจัย ของท่านทุกบาททุกสตางค์ ส่วนอาหารกลางวัน ก็คือข้าวก้นบาตร ของท่าน
เนื่องจากหลวงพ่อสิงห์ท่านเป็นพระสายปฏิติบัติ เป็นลุกศิษย์ ของหลวงปู่มั่น เมื่อท่านเห็นว่า วัดท่าบันเทิงธรรมนี้ มีความเจริญขึ้นมากแล้ว ท่านก็ได้กราบลา หลวงพ่อหมอ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดคู่บ้านคู่เมือง และขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ออกธุดงด์ ไปตามทางที่ท่านกำหนด

รูปที่ ๒
พระครูมงคลธรรมมานุวัตร {จำนงค์}

ชาตะ - - - ๒๔๓๗
มรณะ ๔ มิ.ย. ๒๕๓๓ อายุ ๕๖ ปี

ตำแหน่ง : เจ้าอาวาส,พระอาจารย์สอนหนังสือ,เจ้าคณะอำเภอบางใหญ่คณะสงฆ์ธนนมยุติเมืองนนท์
ท่าน ได้ย้ายมาจากวัด บางขวาง มาดำรงค์ตำแหน่งท่านเจ้าอาวาส ต่อจากหลวงพ่อสิงห์ และได้บำนุบำรุงพระศาสนามาเป็นลำดับ เนื่องจากท่านพระอาจารย์นงค์เป็นพระหนุ่มไฟแรง ท่านได้ทำการซ้อมบำรุง อุโบสถ์เก่าแก่ของทางวัดซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นแบบพิมพ์ราชนิยม ได้สร่างโบราณ ณ.วัตถุขึ้นอีกมากมายเช่น ศาลาการเปรียนหลังปัจจุบัน เมรุ เขือนไม้รอบวัดและโรงเรียน เป็นต้น
เอกลักษณอันโด่ดเด่นของท่าน เนื่องจากท่านเป็นพระที่มี จริยวัตรเรียบร้อย นิสัยคือตรง ดุ ชอบให้การศึกษา ชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก จึงทำให้พระอาจารย์มีลูกศิษท์ลูกหามากมาย เป็นทั้งนายอำเภอ,ผู้ว่า,มรว,ทหาร,ตำรวจ และอีกมากมาย สมัยก่อนมีเรื่องเล่าว่าไม่ว่าท่านจะเป็นใครมาจากไหน เดือนร้อนเรื่องอะไร ให้ไปไหาอาจารย์นงค์ เพราะท่านไม่เคยลังเกียจ ท่านพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกคนที่เดือนร้อน เช่น ไม่มีเงินไปหาหมอ ท่านก็ช่วยแบ่งเบาภาระ อยากบวชไม่มีเงินบวช ท่านก็บวชให้ ตายไม่มีญาติท่านก็จัดงานให้ ทุกอย่างท่านเป็นพระที่เด่นดังมากในสมัยนั้น เมื่อท่านมรระภาพลงจึงทำให้เกิดพลังศัทธามากมาย งานสวดพระอภิธรรมศพของท่าน จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย โดยมีพระ อธิการ ประสาน ปรสาโร เป็น ผู้ดูแลควาเรียบร้อย น่าแปลกใจมากที่ท่านจากไป แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวท่านมีเพียง จตุปัจจัยเพียง ๒๐ บาทเท่านั้น แต่กลับมีเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมเต็มทุกคืน นับเป็นเวลา ๑๐๐ วัน และได้รับ พระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ

รูปที่ ๓
พระครูประสานวัตรคุณ{ประสาน พัฒนาดี 
}
ชาตะ---------------------- 
มระณะ ๒๓ ต.ค.๒๕๔๔

ตำแหน่ง : เจ้าอาวาส,พระสอนบาลีไวยกรณ
ผลงานอันโด่ดเด่น :
๑.สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สังฆปริณายก ทรงเป็นประธานในพิธีว่าง ศิลาฤกษ์ อุโบสถ์หลวงพ่อหมอหลังใหม่ได้{ซึ่งสมัยนั้นถือว่าเป็นวัดแรกและวัดเดียวในอำเภอบางใหญ่ ที่องค์สมเด็จท่านเสด็จมา}
๒.ท่านทรงเป็นผูขอ พระบรมราชานุญาติ ทูนเชิญพระบรมพระสัญญลักษณะ กาญจนาภิเษกฉลองศิริราชสมบัติ๕๐ พรรษา ขึ้นประดิษฐสถาน ณ.หน้าบันพระอุโบสถ์หลังใหม
๓. นำสร้างอุโบสถ์หลังใหม่นี้ มีความงดงาม สูงโปร่ง สง่างาม เรียบง่าย มูลค่า ๘ ล้านกว่าๆ สร้างเสร็จภายใน ๓ ปี{ถือ ว่าเร็วมาก}
๔.นำสร้างกุฎิไม้ทรงไทย ๔ หลัง ติดกัน มูลค่า ๑๐ ล้านกว่า
๕.นำสร้างวิหารหินอ่อนประดิษสถานหลวงขาว
๖.นำสร้างเขื่อนปูนแทนเขือนไม้ที่ชำรุด รอบวัดและ โรงเรียน ประมาณ ๑๓ ไร่
๗.นำสร้างถนนคลอนกรีดเข้าวั
๘.นำสร้างกุำฎิเจ้าอาวาสหลังใหม่ สูง ถึง ๓ ชั้น
๙.เป็นผู้สร้างเหรียญหลวงพ่อหมอ ที่โด่งดัง
หลวงตาท่าน มรณะภาพเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๔๔ ก่อนงานปิดทองฝังลูกนิมิต ไม่กี่เดือน ในครั้งนี้ ท่านได้รับ พระมหากรุณาที่คุณจากองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที ๙ พระราชทาน น้ำหลวงอาบศพพระราชทาน และไฟพระราชทานเพลิงศพ โดยมีเหล่าบรรดาทหาร กองทับเรือ เป็นผู้อันเชิญ สรีระร่างกายท่านขึ้นสู่พระเมรุ

จากชีวิตลุกชาวสวน ที่ไม่มีอารายเลยสักอย่าง มีแต่เพียงความดีที่ท่านได้ทำไว้เท่านั้นเอง สงผลให้ท่านได้ถึงขนาดนี้

รูปที่ ๔
พระครูวุฒิการโกศล{หลวงพ่อว
ุฒิ}
ท่านเป็นเจ้าอาวาส รูปปัจจุบัน และเป็นเจ้าอาวาสที่อายุ มากที่สุดในโลก คือ ๙๕ และยังแข็งแรงสามารถนำ พระภิกษุ-สามเณร ทำกิจวัตร์ของสงฆ์ได้เป็นปกติ

1 ความคิดเห็น: